แผนพลังงานสะอาด "Quick Big Win" เร่งไทยสู่ Net Zero 2050

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เปิดเผยแผนพลังงานสะอาดภายใต้ชื่อนโยบาย "Quick Big Win" ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนที่มุ่งเน้นการปรับตัวของประเทศไทยให้เข้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Net Zero) ภายในปี 2050 จากเดิมที่ตั้งไว้ปี 2065

การเร่งรัดนี้มีสาเหตุจากความตระหนักถึงผลกระทบของสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน และเพื่อรับมือกับมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ เช่น ภาษีคาร์บอน (CBAM) ของยุโรป

เป้าหมายสำคัญของแผน

แผนนี้มุ่งเน้นการสร้างความสมดุลระหว่าง ความมั่นคง (Security), ความยั่งยืน (Sustainability) และ ราคาที่เหมาะสม (Economic) โดยมีเป้าหมายเชิงเศรษฐกิจที่สำคัญคือ:

  • กระตุ้นเศรษฐกิจ: 1 ล้านล้านบาท
  • สร้างงาน: 29,000 ตำแหน่ง
  • ลด CO2: ประมาณ 10 ล้านตันต่อปี

3 มาตรการหลัก Quick Big Win

มาตรการหลักแบ่งออกเป็น 3 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนพลังงานสะอาดในทุกภาคส่วน:

1. โซลาร์เพื่อประชาชน (Solar for the People)

มุ่งนำโซลาร์เซลล์เข้าสู่ชีวิตประจำวัน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดในระดับครัวเรือนและชุมชน

  • โซลาร์ฟาร์มชุมชน (Community Solar Farm): จัดสรรโควต้าโซลาร์ที่เหลือ 1,500 เมกะวัตต์ ให้เอกชนร่วมกับชุมชนพัฒนาโครงการ โดย กฟภ. จะรับซื้อไฟฟ้าในราคา 2.16 บาท/หน่วย และนำส่วนต่างไป ลดค่าไฟ ให้กับชุมชน
  • ลดหย่อนภาษีโซลาร์ครัวเรือน: ค่าติดตั้งไม่เกิน 200,000 บาท สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ (รอประกาศ) คาดกระตุ้นการติดตั้ง 90,000 ครัวเรือน
  • โซลาร์สูบน้ำเพื่อเกษตร และ โซลาร์สำหรับประปาหมู่บ้าน เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงราคาแพงในการเกษตรและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
  • โซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนของ กฟผ.: ลงทุนเองเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าโดยรวม

2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมพลังงานสะอาด

  • Direct PPA (การซื้อขายไฟฟ้าโดยตรง): เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ไฟรายใหญ่ เช่น Data Center สามารถเจรจาซื้อขายไฟฟ้าจากผู้ผลิตพลังงานสะอาดได้โดยตรง โดยจ่ายค่าผ่านสายให้การไฟฟ้าเท่านั้น เป็นการจำลองตลาดไฟฟ้าเสรี ตั้งเป้า 2,000 เมกะวัตต์
  • เร่งพัฒนาโครงข่ายในพื้นที่ EEC: เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะจากกลุ่ม Data Center ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการลงทุนรวมกว่า 500,000 – 600,000 ล้านบาท

3. การวางรากฐานและแผนระยะยาว (Long-Term Planning)

เป็นการวางแผนระยะ 15-20 ปีข้างหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero 2050

  • เร่งจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ (คาดต้นปี 2026): เพื่อกำหนดทิศทางและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
  • เชื้อเพลิงทางเลือกใหม่:

    • ไฮโดรเจน (Hydrogen): ประกาศเป็นเชื้อเพลิงของประเทศเพื่อออกมาตรฐานและกระตุ้นการลงทุน รวมถึงการทดลองผสมในระบบท่อก๊าซธรรมชาติ
    • SMR (Small Modular Reactors): คาดว่าจะถูกบรรจุในแผน เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (200-300 เมกะวัตต์) ที่มีความปลอดภัยสูง
    • CCS (Carbon Capture and Storage): เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน โดยมีศักยภาพที่อ่าวไทย รัฐบาลร่วมมือกับญี่ปุ่นสำรวจ เพื่อสร้างธุรกิจใหม่มูลค่ามหาศาล