กทม. ยกระดับ 10 มาตรการ สู้ PM2.5 มุ่งสู่อากาศสะอาด

 

กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ประกาศยกระดับมาตรการสู้ฝุ่น PM2.5 จำนวน 10 ข้อ เพื่อจัดการกับ 3 ต้นตอหลัก ของปัญหา ได้แก่ การเผาไหม้เครื่องยนต์, การเผาชีวมวล (เกษตร), และสภาพอากาศปิด โดยเน้นการใช้หลักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

กทม. ได้ใช้ภารกิจ "นักสืบฝุ่น" ร่วมกับสถาบันและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจองค์ประกอบฝุ่น และนำไปสู่การยกระดับมาตรการในช่วงวิกฤต (พ.ย. - มี.ค.) เพื่อกรุงเทพฯ อากาศสะอาด ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

10 มาตรการสำคัญที่ถูกยกระดับ

การจัดการปัญหาจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ (ยานพาหนะ)

1. ยกระดับเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone: LEZ) ครอบคลุมทั่วกรุง 50 เขต: ขยายเขตควบคุมมลพิษต่ำจากเดิม 22 เขต ให้ครอบคลุม 50 เขต สำหรับรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป โดยจะบังคับใช้เมื่อผู้ว่าฯ ประกาศสถานการณ์วิกฤต พร้อมใช้กล้อง CCTV อัจฉริยะในการตรวจจับสภาพการปล่อยมลพิษ และมีการทำระบบลงทะเบียน "บัญชีสีเขียว (Green List)" สำหรับยานพาหนะที่ผ่านมาตรฐานไอเสีย
2. โครงการ Green List Plus: ส่งเสริมให้ประชาชนนำรถยนต์ 4 ล้อ เข้ารับการบำรุงรักษา (เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง/ไส้กรองอากาศ) และลงทะเบียน "บัญชีสีเขียวกลุ่มรถยนต์ 4 ล้อ" เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตั้งเป้า 500,000 คัน ในปี 2569
3. คุมเข้มรถควันดำ: เพิ่มความเข้มข้นมาตรฐานการตรวจวัดควันดำ ห้ามเกิน 20% (จากเดิม 30%) เริ่ม 1 พ.ย. 2568 โดยมีการเรียกตรวจเข้มข้นขึ้น
4. ยกระดับการตรวจรถในไซต์ก่อสร้าง/สถานประกอบการ: สุ่มตรวจวัดค่าควันดำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในฤดูฝุ่น และให้รถ 6 ล้อขึ้นไปลงทะเบียน Green List

การจัดการปัญหาการเผาชีวมวล (ภาคเกษตร) และมลพิษในโรงงาน

5. ยกระดับการจัดการมลพิษในโรงงาน: ควบคุมโรงงานที่มีหม้อไอน้ำ 256 แห่ง ให้ติดตั้งระบบตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากปล่องแบบอัตโนมัติ (CEMS) พร้อมเพิ่มความเข้มข้นของมาตรฐานมลพิษจากปล่องหม้อน้ำ
6. ยกระดับการประสานงานจังหวัดข้างเคียง: ร่วมทำข้อตกลงกับ 5 จังหวัดต้นลม (นครนายก, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, สระแก้ว) เพื่อสนับสนุนการลดและการควบคุมการเผาชีวมวลในพื้นที่เกษตร

การบรรเทาผลกระทบและลดแหล่งกำเนิดฝุ่นในเชิงโครงสร้าง

7. ยกระดับการจัดทำห้องปลอดฝุ่น (Safe Zone): เร่งจัดทำห้องปลอดฝุ่นในโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้ครบ 100% ภายในเดือนมี.ค. 2569
8. ยกระดับมาตรการ Work From Home (WFH): ตั้งเป้าขยายเครือข่าย WFH สูงสุด 300,000 คน ในปี 2569 โดยปรับเกณฑ์ให้หน่วยงาน WFH เมื่อ กทม. ประกาศขอความร่วมมือ (ตามเงื่อนไขค่าฝุ่นวิกฤต) หรือ WFH อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน
9. ยกระดับการแจ้งเตือนและการมีส่วนร่วม: เพิ่มระบบแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast และขยายการพยากรณ์คาดการณ์ฝุ่นรายเขตแบบเรียลไทม์ เป็น 7 วัน (จากเดิม 3 วัน) พร้อมสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งเหตุฝุ่นผ่าน Traffy Fondue
10. เพิ่มพื้นที่สีเขียว: เพิ่มเป้าหมายปลูกต้นไม้เป็น 3 ล้านต้น และเพิ่มสวน 15 นาที ให้ครบ 500 แห่ง

ผู้ว่าฯ ชัชชาติย้ำว่า เรื่องฝุ่นเป็นเรื่องสำคัญต่อการอยู่รอดของเมือง และเชื่อว่าการใช้หลักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะทำให้ กทม. สามารถต่อสู้กับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ